การเตรียมพร้อมสําหรับอนาคตของการทํางาน 

Multi ethnic group of young people attending business event, young man using laptop, networking, self improvement, learning

ค้นพบวิธีที่องค์กรคว้าโอกาสในการออกแบบงาน การทํางาน และสถานที่ทํางานใหม่

การมุ่งเน้นการอภิปรายเกี่ยวกับความสมดุลระหว่างชีวิตและการทํางานและความต้องการผู้มีทักษะความสามารถสูงที่จะเป็นเจ้าของเส้นทางการพัฒนาทักษะของตนเองนั้นพลาดการเปลี่ยนแปลงในวงกว้างซึ่งจําเป็นต้องเกิดขึ้น
Ravin Jesuthasan

หัวหน้าการบริการการเปลี่ยนแปลงทั่วโลกของ Mercer

การอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งความเสี่ยงและโอกาสต่าง ๆ มาบรรจบกันในลักษณะที่คาดไม่ถึง คือความเป็นจริงใหม่ การเปลี่ยนแปลงพื้นฐานในค่านิยมของบุคคลกําลังสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในตลาดแรงงาน

ความปั่นป่วนอย่างต่อเนื่องส่งผลกระทบต่อความทะเยอทะยาน

ห่วงโซ่อุปทานที่ตึงเครียดและความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ในช่วงสองปีที่ผ่านมายังคงดําเนินต่อไป เช่นเดียวกับความกังวลเกี่ยวกับความไม่เสมอภาค ความคืบหน้าในเรื่องความยุติธรรมทางสังคมที่เชื่องช้าและวาระการลดคาร์บอนที่ปัจจุบันกําลังอยู่ระหว่างการเปลี่ยนผ่านสุทธิเป็นศูนย์อย่างไม่เป็นระเรียบเรียบร้อย ความผันผวนของตลาดและความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อยังดําเนินต่อไปในขณะที่มุมมองต่าง ๆ เปลี่ยนไปว่าจะดําเนินการอย่างกล้าหาญหรือไม่และวิธีการลดความเสี่ยง

เราได้เรียนรู้บทเรียนทั้งหมดจากการระบาดใหญ่ นั่นคือรอยนิ้วมือที่เห็นได้ชัดในแผนของผู้บริหารเพื่อความยืดหยุ่นและการฟื้นตัวทางธุรกิจ ในกรณีที่เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำอีกครั้ง ผู้บริหารระดับประธานเจ้าหน้าที่วางแผนที่จะลงทุนเชิงกลยุทธ์แทนที่จะลดค่าใช้จ่ายอย่างที่พวกเขาทําเมื่อการระบาดใหญ่เกิดขึ้นครั้งแรก การศึกษา Global Talent Trends ประจำปี 2565 ของ Mercer เผยให้เห็นถึงการเปรียบเทียบที่น่าสนใจกับผู้บริหารครั้งล่าสุดที่จะต้องพิจารณาภาวะวิกฤตที่กําลังจะเกิดขึ้น:

  • มีแผนการน้อยลงในการใช้ประโยชน์จากแบบจําลองการจัดหาพนักงานที่หลากหลาย (ลดลงจาก 39% ในปี 2562 เป็น 29% ในปัจจุบัน)
  • วางแผนลดจํานวนพนักงานน้อยลง (ลดลงจาก 30% เป็น 26% ในปัจจุบัน)

สิ่งนี้สะท้อนถึงบทเรียนในยุคการระบาดใหญ่ ซึ่งบริษัทต่าง ๆ สามารถมีความว่องไวมากขึ้นในช่วงเวลาที่ยากลําบาก โดยการรักษาบุคลากรที่รู้จักวัฒนธรรมและมุ่งมั่นต่อการเดินทางอยู่แล้ว และรับทราบความท้าทายที่เป็นเอกลักษณ์ของบรรยากาศทางเศรษฐกิจที่ตึงเครียด รวมกับตลาดแรงงานร้อนแรง

ประสบการณ์พนักงานแบบดิจิทัลที่ยั่งยืนมากขึ้นในระดับผู้บริโภค

ในขณะที่พวกเขาเตรียมพร้อมสําหรับอนาคตของการทํางาน องค์กรส่วนใหญ่ได้เริ่มต้นเส้นทางการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลแล้ว การเดินทางทางดิจิทัลนี้เร่งตัวขึ้นอย่างทวีคุณ เนื่องจากการระบาดใหญ่ได้ผลักดันกระบวนการออนไลน์และระบบคลาวด์อย่างรวดเร็ว นายจ้างชั้นนํากําลังเพิ่มแพลตฟอร์มดิจิทัลใหม่ ๆ สําหรับทุกสิ่งเพื่อตอบสนอง ตั้งแต่การเชื่อมต่อและการทํางานร่วมกันในที่ทํางานไปจนถึงการเข้าถึงสวัสดิการและโซลูชันสุขภาพดิจิทัล 

ความคาดหวังสูง องค์กรต้องมีกลยุทธ์และเลือกตัวเลือกที่ยั่งยืนในระดับผู้บริโภคที่สอดคล้องกับกลยุทธ์ทางธุรกิจและบุคลากรขององค์กรอย่างแม่นยํา การเป็นผู้นําด้วยข้อเสนอคุณค่าสําหรับพนักงานที่ก้าวหน้าทางดิจิทัล ไม่เพียงแต่จะช่วยให้บริษัทมีความคล่องตัวเท่านั้น แต่ยังมอบประสบการณ์โดยรวมที่มีคุณภาพมากขึ้นให้แก่พนักงาน ซึ่งจะช่วยดึงดูดและรักษาผู้มีทักษะความสามารถสูงเอาไว้ และแม้ว่าพนักงานหลายคนจะพร้อมทํางานด้านดิจิทัล แต่พนักงานคนอื่น ๆ ก็ยังต้องการการสนับสนุนในการปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีใหม่เหล่านี้

ปรับให้เข้ากับระบบปฏิบัติการการทํางานใหม่

ผลกระทบของการเร่งเทคโนโลยีต่ออนาคตของการทํางานนั้นลึกซึ้งมาก ในขณะเดียวกัน เราก็ได้มีประสบการณ์ในการปรับโครงสร้างโอกาสในการทํางาน เพื่อนําทางโลกของการทํางานที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ผู้กําหนดนโยบาย ผู้นํา ผู้จัดการ และแรงงานต้องการ "ระบบปฏิบัติการการทํางานใหม่" ที่ปลดโซ่พนักงานและความสามารถของแรงงานจากขอบเขตงานแบบดั้งเดิม
องค์กรจําเป็นต้องออกแบบความเป็นอยู่ที่ดีและการเรียนรู้ในขั้นตอนการทํางาน
Ravin Jesuthasan

หัวหน้าการบริการการเปลี่ยนแปลงทั่วโลกของ Mercer

การลงทุนในความเป็นอยู่ที่ดีโดยรวม

เมื่อถูกขอให้อธิบายอนาคตของการทํางาน พนักงานหนึ่งในสามคนบอกว่าเป็นเรื่องของความเสมอภาค พวกเขาคาดหวังว่านายจ้างจะเปลี่ยนจากเพียงแค่เสนอสวัสดิการไปสู่การเป็นหุ้นส่วนที่กระตือรือร้นในผลลัพธ์ด้านสุขภาพและความมั่งคั่งของผู้คน เช่น การรับรองการเข้าถึงการดูแลสุขภาพคุณภาพสูง (ซึ่งยังคงมีช่องว่างอยู่ในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดเกิดใหม่) ซึ่งมีความเสี่ยงสําหรับผู้ที่ประสบวิกฤตทางการเงินหรือช่วยปิดการขาดเงินบํานาญ

การมุ่งเน้นไปที่ผลลัพธ์ทําให้การอภิปรายขยายออกไปเพื่อรวมปัจจัยทางสังคมของสุขภาพ ปัจจัยที่ไม่ใช่ทางการแพทย์ดังกล่าวมักขึ้นอยู่กับความต้องการที่ยังไม่ได้รับการตอบสนอง แง่มุมของสภาพแวดล้อมการอยู่อาศัยและการทํางานของบุคคลที่ก่อให้เกิดความเครียดหรือสุขภาพที่ไม่ดี เช่น หนี้ ช่องว่างของการออมทรัพย์ การเข้าถึงการดูแลสุขภาพที่ไม่มั่นคง หรือการดูแลเด็กหรือผู้สูงอายุที่จํากัด ตลอดจนความต้องการพื้นฐาน เช่น ที่อยู่อาศัย อาหาร และการขนส่ง การจัดการกับความต้องการของบุคคลทั้งหมดเป็นสิ่งสําคัญในการขับเคลื่อนผลลัพธ์ด้านสุขภาพของประชากรที่หลากหลายซึ่งประกอบกันเป็นแรงงาน และแสดงให้เห็นว่าบริษัทใส่ใจอย่างแท้จริง

เป็นที่ชัดเจนว่าสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีโดยรวมได้กลายเป็นศูนย์กลางของการถกเถียงกันในอนาคตของการทํางาน
Till Leopold

สภาเศรษฐกิจโลก

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

      โซลูชันที่เกี่ยวข้อง
        ข้อมูลเชิงลึกที่เกี่ยวข้อง